น้ำมันเครื่องคืออะไร? มีกี่ประเภท?

น้ำมันเครื่องเป็นสารหล่อลื่นสำหรับส่วนประกอบเครื่องยนต์ที่ทำหน้าที่เหมือนฟิล์มป้องกันบนชิ้นส่วนโลหะ ช่วยลดการเสียดสีและการสึกหรอขณะเครื่องยนต์กำลังทำงาน น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเครื่องยนต์เนื่องจากส่วนประกอบทุกชิ้นของเครื่องยนต์ทำงาน แต่ละส่วนจะเสียดสีกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความร้อนบนพื้นผิวของชิ้นส่วนที่เสียดสีกัน หลังการเผาไหม้มักมีสารตกค้างในห้องเครื่อง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องในการหล่อลื่นเครื่องยนต์

ประโยชน์ของน้ำมันเครื่อง

ช่วยระบายความร้อนให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์

ป้องกันการเกิดสนิม การกัดกร่อน คราบเขม่าควัน

ลดการเกิดสิ่งสกปรกที่เกิดจากการเผาไหม้

ช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์

ช่วยในการลดแรงเสียดทานและการสึกหรอของเครื่องยนต์

ทำไมต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง?

รักษาเครื่องยนต์ให้สะอาด

การยืดอายุเครื่องยนต์

น้ำมันเครื่องมีกี่ประเภท

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Full Synthetic)

น้ำมันเครื่องนี้ผ่านกระบวนการผลิตและการกลั่นขั้นสูงด้วยเทคโนโลยีระดับสูง แต่ละขั้นตอนและกระบวนการกลั่นได้รับการวิจัยและพัฒนามาอย่างดีเพื่อให้มั่นใจในความบริสุทธิ์และคุณภาพของน้ำมันเครื่อง ให้การปกป้องและการหล่อลื่นที่ดีเยี่ยมสำหรับเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ระยะทางโดยประมาณประมาณ 10,000 – 15,000 กิโลเมตร

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)

เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ผสมกับน้ำมันจากธรรมชาติ มีจุดประสงค์เพื่อให้น้ำมันเครื่องนั้นมีคุณสมบัติที่ดีขึ้นกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาทั่ว ๆ ไป และยังมีราคาที่ย่อมเยากว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์อีกด้วย

ระยะทางโดยประมาณประมาณ 7,000 – 10,000 กิโลเมตร

น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral Oil)

น้ำมันประเภทนี้สกัดมาจากน้ำมันดิบ (ปิโตรเลียม) หรือพูดง่ายๆ ก็คือน้ำมันธรรมชาติ น้ำมันเครื่องประเภทนี้มีราคาที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องประเภทอื่น

ระยะประมาณ 5,000 – 7,000 กิโลเมตร

.

ถ่ายน้ำมันเครื่อง ควรทำเมื่อไหร่

ควรยึดถือตามหลักคู่มือว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอนไหนและเมื่อไหร่ เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและง่าย รวมไปถึงในคู่มือมักจะมีการระบุค่าต่าง ๆ เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถใหม่ที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันสะดวกและง่ายกว่ารถเก่า ซึ่งถ้าเป็นรถที่ใช้งานเป็นประจำก็สามารถยึดหลักง่าย ๆ

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามระยะทาง

สำหรับรถยนต์รุ่นเก่าที่อาจไม่มีคู่มือมาด้วย รวมถึงรถมือสองด้วย การติดตามว่าเมื่อใดควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอาจเป็นประโยชน์ วิธีหนึ่งที่ทำได้คือการเปรียบเทียบระยะทางของรถกับตัวเลขบนสติ๊กเกอร์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เมื่อระยะทางถึงช่วงที่แนะนำก็ถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง สังเกตสติ๊กเกอร์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่แขวนไว้ใกล้พวงมาลัยรถ

โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 8,000 – 10,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่เราใช้ ซึ่งถ้าน้ำมันเครื่องเกรดดีๆ สามารถวิ่งได้ถึง 15,000 กิโลเมตร และขึ้นอยู่กับการใช้งานรถด้วย ถ้าใช้รถบ่อยๆ ควรเปลี่ยนตั้งแต่ 5,000 กิโลเมตร สรุประยะที่ควรเปลี่ยนถ่ายตามข้อมูลของ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน

น้ำมันเครื่องรถยนต์มีกี่แบบ เลือกแบบไหนดีที่สุด

น้ำมันเครื่องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบำรุงรักษารถยนต์อย่างเหมาะสม และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ทุกคนในการทำความเข้าใจประเภทและเกรดต่างๆ ที่มี เรามาดูคำแนะนำง่ายๆ ในการตรวจสอบและเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะกับรถของคุณกันดีกว่า

ค่าใช้จ่ายที่พบบ่อยที่สุดประการหนึ่งในการบำรุงรักษารถยนต์คือการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เมื่อถึงระยะทางหรือช่วงเวลาที่กำหนด คุณภาพของน้ำมันเครื่องก็เริ่มเสื่อมลง สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การหล่อลื่นที่ไม่ดี อุณหภูมิภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น และสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่หยาบกร้าน หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ความเสียหายอาจส่งผลให้เกิดค่าซ่อมแซมจำนวนมาก

.

.

การอ่านค่าของน้ำมันเครื่อง

“SM” คือ API (American Petroleum Institute Standard) ที่กำหนดโดยสถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้เป็นมาตรฐานสากลสำหรับน้ำมันเครื่อง

มาตรฐาน API สำหรับคุณภาพน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซินเริ่มต้นด้วย “S” เช่น API SM หรือ API SL สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลจะขึ้นต้นด้วย “C” เช่น API CJ-4 หรือ API CI-4 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.api.org API SN คือมาตรฐานคุณภาพสูงสุดสำหรับน้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้น ป้องกันการสะสมตัวของเทอร์โบชาร์จเจอร์ การโต้ตอบกับระบบควบคุมการปล่อยไอเสีย และเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้ใช้เชื้อเพลิง E85 เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2010 มาตรฐาน API SM เปิดตัวในปี 2010 ในขณะที่ API SL เปิดตัวในปี 2004 API SJ เปิดตัวในปี 2001 มาตรฐาน CK-4 เป็นมาตรฐานคุณภาพสูงสุดสำหรับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ดีเซลที่เปิดตัวในปี 2017 CJ-4 เปิดตัวในปี 2010, CI-4 ในปี 2002 และ CH-4 ในปี 1998

“10W-30” เป็นมาตรฐานจาก Society of Automotive Engineer (SAE) ซึ่งเป็นสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ในสหรัฐอเมริกา

โดยค่าชุดเลขตัวแรก “10W” ค่าการทนความเย็นของน้ำมันเครื่อง ดังนี้W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ต่ำกว่า -30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข5W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง -30 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข10W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง -20 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข15W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง -10 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข20W = สามารถคงความข้นใสไว้ได้ถึง 0 องศาเซลเซียส โดยไม่เป็นไข

ชุดเลขตัวที่สอง “30” บอกถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องที่มีตั้งแต่ 60, 50, 40, 30, 20, 10 และ 5 โดยตัวเลขมีความหนืดมาก ตัวเลขน้อยมีความหนืดน้อยตามลำดับ โดยความหนืดของน้ำมันมีผลต่อการหล่อลื่นและช่วยลดการสึกหรอได้มาก โดยความหนืดที่เหมาะสมสำหรับเครื่องยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 20-40

ทริกที่หลายคนเลือกเปลี่ยนน้ำมันเครื่องคงเป็นเรื่องค่าความหนืด เพราะอุณภูมิอากาศในไทยต่อให้ใช้ 20W ก็ยังไม่น่ากังวล เครื่องยนต์ใหม่ก็มักไปเริ่มกันที่ “40” และปรับให้หนืดขึ้นเมื่ออายุเครื่องยนต์เพิ่ม เพื่อให้เครื่องฟิตขึ้น..

การดูน้ำมันเครื่องสูตรพิเศษ

น้ำมันเครื่องที่มีอยู่ในปัจจุบันมีหลายประเภทซึ่งว่ากันว่าเหมาะสมกับการใช้งานประเภทต่างๆ

For NGV, LPG & Gasoline –สามารถใช้ได้ดีกว่าสำหรับรถที่ติดแก๊ส NGV และ LPG

Heavy Duty –ใช้ได้ดีสำหรับรถที่บรรทุกของหนัก

ข้อมูลสำคัญที่จะชี้ไปว่าน้ำมันเครื่องแบบไหนเหมาะสมกับรถยนต์ของคุณ เลือกใช้ได้แน่นอน ที่เหลือก็คือการพิจารณาเรื่องของราคา และยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้น้ำมันเครื่องที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุด

น้ำมันเครื่องรถยนต์ยี่ห้อไหนดี แบบไหนคุ้มค่าเหมาะกับรถคู่ใจ

เมื่อเลือกน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาความต้องการของคุณและให้แน่ใจว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเลือกน้ำมันเครื่องดีเซลหรือเบนซิน

เมื่อพูดถึงส่วนประกอบที่สำคัญ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงเครื่องยนต์เป็นอันดับแรกเพราะมันช่วยให้มีกำลังขับเคลื่อนรถยนต์ เครื่องยนต์ประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ซับซ้อนจำนวนมาก และมีแนวโน้มที่จะสึกหรอเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ ดังนั้นหากคุณต้องการให้ส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์มีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน นอกเหนือจากการบำรุงรักษาตามปกติแล้ว ควรพิจารณาเปลี่ยนชิ้นส่วนเมื่อจำเป็นด้วย

น้ำมันเครื่องที่ทางร้าน PPS4x4 นำเสนอ

น้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องรถยนต์ ถูกและดี